กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...มี
วันศุกร์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2553
นิทานนานาชาติ : นกสีฟ้า 1
ชีอาวาเซ...โนะ...อาโอ้ย...โทริ นกสีฟ้า..นกแห่งความสุข
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...มีครอบครัวคนตัดไม้ที่ยากจนมากอยู่ครอบ ครัวหนึ่งที่บ้านหลังนี้...มีพี่น้องสองคนอาศัยอยู่ คนพี่เป็นผู้ชายชื่อ จิรุจิรุและ คนน้องเป็นผู้หญิงชื่อ มิจิรุ...วันนี้เป็นวันคริสมาส..วันที่ทุกคนดีใจ แต่ที่บ้านของจิรุจิรุและมิจิรุ ไม่มีอะไรเลย...ด้วยเป็นเพราะความยากจน จึงไม่มีต้นคริสมาสและไม่มีแม้แต่อาหารเพื่อขอบคุณพระเจ้า...รวมทั้ง งานเลี้ยงอะไรกับใครเขา...มิจิรุ นั่งมองบ้านตรงข้ามสนุกสนานจัดงาน เลี้ยงฉลองต้อนรับวันคริสมาส..มองต้นคริสมาสที่บ้านนั้นจัดและตบแต่ง ไว้อย่างสวยงาม มิจิรุ มองอย่างตั้งอกตั้งใจ แล้วพูดกับผู้เป็นพี่ว่า "เน้..พี่ จิรุจิรุ..อยากให้บ้านเรามีต้นคริสมาสเหมือนอย่างที่บ้านนั้นจังเลย..ดูสิ ทำไมถึงสวยอย่างนี้ก็ไม่รู้...เฮ้อ..สวยจังเลย " จิรุจิรุ ผู้พี่มองน้องสาวด้วย ความสงสาร..แต่เขาก็ได้แต่ทอดถอนใจเพราะบ้านของเขานั้นยากจนจึง ไม่มีพลังที่จะไปเลียนแบบกับใครเขาได้...ดูเอาแต่ว่าวันนี้เถอะ..วันนี้เป็น วันคริสมาสนะนี่...แต่พ่อกับแม่ของเขาทั้งสองก็ยังต้องออกไปทำงาน กลางหิมะอันหนาวเย็น และยังไม่รู้เลยว่า..อีกกี่วันถึงจะเสร็จและจะ กลับมาบ้านได้วันไหนเลยนี่.... ขณะที่จิรุจิรุและมิจิรุ กำลังถอดอกถอนใจมองบ้านตรงข้ามด้วยนึก อิจฉาต้นคริสมาสของเขาอยู่นั้น ยายที่อยู่ในหมู่บ้านก็มาที่บ้านของ จิรุจิรุและมิจิรุ " ขอโทษทีนะ..บ้านของหนูทั้งสองมี "นกสีฟ้า"หรือปล่าว จ๊ะ...หลานของยายไม่สบายมาก..จำเป็นที่จะต้องมีนกสีฟ้าอย่างมาก เลยหละ.." จิรุจิรุ ฟังแล้วจึงตอบยายข้างบ้านไปว่า " ที่บ้านมีแต่นกแก้ว จ๊ะ..ยาย แล้วก็ไม่ได้เป็นสีฟ้าอย่างที่ยายต้องการเสียด้วย.." "เฮ้อ..ไม่ใช่นกสีฟ้าหรอกหรือ....นี่จิรุจิรุและมิจิรุ ช่วยไปตามหานกสีฟ้า ให้ยายหน่อยได้ไหม? ยายจำเป็นที่จะต้องมีนกสีฟ้าตัวนั้น..อย่างที่สุด" " ได้สิยาย...แต่ว่าเราสองคนไม่รู้ว่ามันอยู่ที่ไหน? แล้วจะไปตามหาได้ที่ไหน?.. ล่ะยาย.." ยายที่อยู่ในหมู่บ้านจึงหยิบหมวกใบหนึ่งออกมาแล้วส่งให้จิรุจิรุ...... เป็นหมวกสีสวยสด...แล้วตรงกลางหมวกยังมีเพชรเม็ดใหญ่มากติดอยู่บน หมวกใบนั้นด้วย..แล้วยายก็พูดกับจิรุจิรุว่า.." จิรุจิรุ..ลองสวมดูสิ แล้วหมุนเพชรเม็ดนั้น ไปทางด้านขวานะ.." จิรุจิรุ จึงเอื้อมมือขึ้นไปและหมุนเพชรไปทางด้านขวาอย่างที่ ยายคนนั้นบอกทันที...แล้วอะไรกันนั่น!!!มีแสงสว่างเป็น 7สีเหมือนสายรุ้ง สว่างจ้า..พรุ่งออกมา..สว่างไสวทั่วไปหมดทั้งบริเวณนั้นเลยหละ....มหัศจรรย์เหลือเกิน... แล้วในท่ามกลางความมหัศจรรย์กลางแสงสว่างที่พรุ่งออกมานั้น...ก็บังเกิดมีเทพ แห่งขนมปัง,เทพแห่งนมและเทพแห่งน้ำตาล..ออกมาวิ่งกระโดดโลดเต้นไปมา อย่างดีอกดีใจ..แล้วตรงนั้นก็เช่นกันแมวและหมาที่ทั้งสองเลี้ยงไว้นั้นก็ลุกขึ้นยืน ได้แบบคน...ดูสิ..มหัสจรรย์จริง ๆ..แล้วจากตรงกลางของแสงสว่างจ้านั้นก็ปรากฏ มีเทพธิดาแห่งแสงสว่างที่สวยงามมากออกมายืนสงบนิ่งและยิ้มอย่างใจดีกับ จิรุจิรุและมิจิรุ ทั้งสองพี่น้องตื่นตาตื่นใจกับสิ่งที่ปรากฏอยู่ข้างหน้าอย่างที่สุด แล้วตรงนั้นยายที่อยู่ในเมืองก็พูดขึ้นมาแทรกความตะลึงตะลานทั้งหมดว่า "ส่า...เทพทุกองค์และเทพธิดาแห่งแสงสว่าง จงช่วยกันพา...จิรุจิรุและมิจิรุ ไปตามหา"นกสีฟ้า" ตั้งแต่บัดนี้เถิด.." แล้วประตูของการเดินทางไปสู่ความ มหัศจรรย์ก็เปิดแง้มออก..... เมื่อทั้งสองเดินออกมาพ้นประตู...ตรงนั้นเป็นหน้าบ้านของทั้งสองเอง แต่วันนี้ที่ตรงหน้าบ้านไม่รู้ว่ามีบันใดอันยาวเหยียดพาดทอดสูงขึ้นไปสู่สวรรค์ มาตั้งแต่เมื่อไหร่..บันใดนั้นพาดยาวเหยียดเป็นเส้นตรงเหมือนขีดเส้น มองเห็นลิบ ๆขึ้นไปสู่สวรรค์จริง ๆด้วย...ทุกคนค่อย ๆเดินขึ้นบันใดไปทีละ ขั้น ๆตามเทพธิดาแห่งแสงสว่างซึ่งเป็นที่ผู้ก้าวเดินนำหน้าไปติด ๆ...เมื่อเดินขึ้น มาได้สักพักหนึ่งก็มาถึง " เมืองแห่งความทรงจำ" ที่หน้าเมืองแห่งความทรงจำนี้ ปรากฏว่ามีตาและยายของสองพี่น้องที่ตายล่วงลับไปนานแล้วออกมายืนต้อนรับ ทั้งสองอยู่....จริง ๆด้วย.....ตากับยายยืนยิ้มอย่างใจดีเหมือนเดิมแล้วพูดว่า "จิรุจิรุและ มิจิรุ ดีใจที่ได้พบกับเจ้าทั้งสองอีกครั้ง..ตากับยายดีใจเหลือเกิน.. " ตาจ๋ายายจ๋า..เราสองคนก็คิดถึงตากับยายมากเหลือเกิน "..ใช่แล้วจากนี้ ก็เป็นเวลาแห่งความสุขเมื่อได้พบกับสิ่งที่เคยรักและต้องพรัดพรากและ เมื่อได้มาพบ ทุกคนพูดคุยกันอย่างมีความสุข...ใช่แล้ว..อยากจะหยุดเวลา "ให้มีแต่ตรงนี้จังเลย "...จิรุจิรุและมิจิรุคิด..แต่..ไม่มีเวลาแล้ว..แล้วในที่สุด เมื่อหมดเวลา...ตากับยายจึงพูดกับจิรุจิรุและมิจิรุว่า " ตากับยายสองคน จะอยู่ในใจของเจ้าเสมอ..คิดถึงเมื่อไหร่ ก็จะได้พบตลอดกาลนะลูก...จำไว้ " เมื่อตาและยายพูดเสร็จแล้วก็มอบ " นกสีฟ้า" ให้กับจิรุจิรุและมิจิรุ เป็นของ ขวัญ...ทั้งสองเดินถือกรงนกสีฟ้า ลงบันใดจากเมืองแห่งความทรงจำ กลับมาบ้านของตน..แต่เมื่อทั้งสองเดินลงบันใดมาถึงที่หน้าบ้านเข้าเท่านั้น นกสีฟ้าที่ตากับยายให้มา ก็กลับกลายเป็นนกสีดำ เปลี่ยนไปในทันทีทัน ใดนั้นเลย.... เทพธิดาแห่งแสงสว่างที่ตามมาติด ๆภายหลังจึงพูดว่า " เห็นทีว่าพวกเรา จะต้องไปที่ " ปราสาทแห่งความมืด " แล้วหละ..จิรุจิรุและมิจิรุ " เมื่อทั้งสามออกเดินทางไปสู่ปราสาทแห่งความมืดแล้ว พวกเทพที่ยังคง เหลือและรออยู่ในบ้านของจิรุจิรุและมิจิรุรวมทั้งแมวและหมาด้วยนั้น ก็เกิดการถกเถียงกันอย่างโกระหลขึ้นมา...อยู่ ๆก็มีเสึยงหนึ่งพูดขึ้นว่า " นี่ถ้า จิรุจิรุและมิจิรุ ไปพบนกสีฟ้าที่ปราสาทแห่งความมืดเข้า...พวกเราก็ต้อง กลับกลายเป็นเหมือนเดิม น่ะสิ..แล้วก็ไปโดนพวกมนุษย์ทั้งหลายกลั่น แกล้งเอาเหมือนอย่างเดิมใช่ไหม?..ไม่ดีเลย..พวกเราต้องแย่แน่ ๆ..แฮ้.." ที่พูดขึ้นมาก็คือ..แมวจอมฉลาดนั่นเอง... หมานั่งฟังอยู่เงียบ ๆจึงพูดโผลงเถียงแมวไปว่า " จิรุจิรุและมิจิรุ ใจดีกับ พวกเราเสมอไม่ใช่หรือ?..จะไปขัดขวางทำไม? " แต่เจ้าแมวรีบตอบกลับ ไปว่า " ไม่เอาหรอก..ไม่เอา ข้าไม่อยากเป็นเหมือนเดิม ถึงจิรุจิรุและมิจิรุ จะดีกับข้าอย่างไร..ก็ไม่เอาด้วยหรอก ข้าจะต้องไปขัดขวางไม่ให้ได้พบ นกสีฟ้า เป็นอันขาด..มาใครที่เห็นด้วยกับข้า..มา..เราไปขัดขวางกันเถอะ" แต่ไม่มีใครในที่นั้นเห็นด้วยเลยสักนิดแมวจึงโมโหเลยกระโดดออกจาก บ้านและเดินทางไปแต่ผู้เดียวทันทีนั้น...หมาเห็นแมวคิดไม่ดี และเดินทางไปแล้ว ก็ให้เป็นห่วงจิรุจิรุและมิจิรุเป็นอันมาก จึงรีบออกเดิน ทางตามหลังแมวไปติด ๆ... เมื่อแมวเดินทางมาถึงปราสาทแห่งความมืดก่อนใคร ๆทั้งหมดแล้ว..ก็รีบเข้าไปหา แม่มดเจ้าของปราสาทแห่งความมืดทันที เจ้าแมวรีบเล่าเรื่องราวต่าง ๆที่จิรุจิรุและมิจิรุ พร้อมทั้งเทพธิดาแห่งแสงสว่าง..ว่ากำลังจะมาตามหานกสีฟ้าที่นี่ในไม่ช้านี้แล้วหละ แม่ มดจึงเกิดพิโรธขึ้นมาทันทีและตะโกนก้องด้วยความโกรธว่า "เห..อะไร ! เจ้าว่าเทพธิดาแห่ง แสงสว่างก็จะมาด้วยหรือนี่?หือ "แล้วตรงนั้น จิรุจิรุและมิจิรุก็มาถึงพอดี...ดูสิ..แล้วก็ไม่รู้ อิโน่อิเน่อะไรเลยด้วยสิ..." ข้าแต่เจ้าหญิงแห่งความมืด พวกเรามาตามหานกสีฟ้า..นก ตัวนั้นมันอยู่ที่นี่หรือปล่าว ? " แม่มดจึงตอบกลับไปแบบสุดแสนจะชาเย็นเป็นที่สุดว่า "อย่าเข้ามาใกล้ข้านะ ! เจ้าจะมาหาอะไร ?มันก็ไม่เกี่ยวกับข้านี่ แต่ข้าเกลียดเทพธิดา แห่งแสงสว่าง นะจะบอกให้..ส่า..รีบออกไปจากที่นี่แต่โดยไวเถอะ.."แม่มดว่าแล้วก็หัน หลังเตรียมที่จะหนีไปที่อื่น... " ได้โปรดเถิด..อย่านึกโกรธอย่างนั้นสิ เจ้าหญิงแห่งความมืด..พวกเรามีความจำเป็นจริง ๆ ที่จะต้องได้พบเจ้านกสีฟ้าตัวนั้นอย่างมาก..ขอได้โปรดอย่าโกรธเลย..ช่วยเปิดทางให้กับ พวกเราเถอะนะ " จิรุจิรุและมิจิรุเห็นว่าแม่มดเจ้าของปราสาทแห่งความมืดไม่ยอมตอบกลับ มาว่าอะไร ?คงเพราะนางคงเกลียดแสงสว่างอย่างมาก..รีบเดินถอยหายไปจากที่นั้นทันที... ทั้งสามจึงถือโอกาศเดินเข้าไปภายในแล้วตามหานกสีฟ้าทันทีเหมือนกัน..ภายในปราสาทที่ มืดทึบมีห้องเรียงกันอยู่มากมายเป็นแถวยาวมากทีเดียว " มิจิรุ เราลองเปิดห้องนี้ดูก่อนดีไหม?" จิรุจิรุพูดชวนน้องสาวแล้วเอื้อมมือไปหมุนเพชรบนหมวกไปทางด้านขวา...แล้วในท่ามกลาง แสงสายรุ้งที่สว่างจ้านั้น ประตูห้องก็ถูกเปิดออก....แต่ ! จากในห้องนั้นก็มีภูตผี ปีศาจและสัตว์ ประหลาดต่าง ๆจากนรก วิ่งพลูกันออกมาจากห้องมากหมาย..." โอ้ย..น่ากลัวเหลือเกิน... หนีกันเถอะ..." " ห้องนั้นมันห้องรวมผีปีศาจ แน่นอนเลย..ฮี้.." แล้วเทพธิดาแห่งแสงสว่างก็เอ่ยชวนให้ทุกคน ไปที่ห้องที่อยู่ลึกเข้าไปซึ่งเป็นห้องสุดท้าย.." มาที่ห้องนี้เถอะ จิรุจิรุและมิจิรุ..." ห้องนี้เป็น " ห้องแห่งความฝัน " เมื่อเข้าไปในห้องแล้ว ห้องทั้งห้องมีดอกไม้มากมายบานสะพรั่งเต็มห้องไปหมด แล้วภายในห้องบนเพดานยังมีนกสีฟ้ามากมายบินว่อนโฉบไปโฉบมาเต็มไปหมดเลยอีกด้วย...ทุกคน ช่วยกันตามจับนกสีฟ้ากันอย่างรีบร้อน...แต่ ! เมื่อจับตัวไหนใส่ลงไปในกรงแล้ว...ทุกตัวก็มีอันต้อง ตายไปทุกตัวนั้นเลย...ทำไมถึงเป็นและแปลกแบบนี้..ก็ไม่รู้ ???....
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...มี
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น